วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ดิฉันไม่ใช่ "เรยา" ตอนที่ ๑

ดิฉันอยากจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาในสมัยยังเป็นวัยรุ่นให้ฟังค่ะ มันเป็นช่วงที่ดิฉันยังมีนิสัยไม่ดีอยู่ แต่ตอนนี้ไม่เป็นแบบนั้นแล้วค่ะ ตอนนี้ดิฉันมีลูกสองคนแล้วค่ะ มีสามีที่ดี อยู่อย่างมีความสุข
เป็นเรื่องราวในตอนที่ดิฉันยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยค่ะ ดิฉันอยู่ปีสามมีคนมาจีบมากหน้าหลายตาค่ะ ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง และคนที่เรียนอยู่ต่างมหาลัย หรือคนที่ทำงานแล้วก็มีค่ะ เนื่องจากดิฉันเป็นดาวคณะ(คณะอะไรไม่ขอเ่อ่ยถึงนะคะ) ไปประชาสัมพันธ์ในงานของมหาลัยก็บ่อย
หลังจากเรียนมาสองปีแล้วดิฉันก็ไปเดทกับผู้ชายหลายๆคนที่เข้ามาจีบ แต่ก็ไม่เคยเลือกใครมาเป็นแฟน จนมาถึงปีสามเมื่องานกิจกรรมน้อยลงเพราะมีรุ่นน้องๆมาแบ่งเบา ดิฉันเลือกคบกับผู้ชายที่เข้ามาจีบ และดิฉันไปไหนมาไหนด้วยมากที่สุดสามคน ทุกคนหน้าตาดีค่ะ ขาว สูง 
คนแรกเป็นรุ่นพี่คณะวิศวะ ชื่อ "พี่หนี่ง" ค่ะ พี่คนนี้จะไปไหนมาไหนกับดิฉันมากที่สุดก็จะเป็นตอนที่อยู่ในมหาลัยค่ะ
คนที่สองเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่อยู่ต่างมหาลัย รู้จักกันตอนไปทำของมหาลัยนอกสถานที่ค่ะ เจอกันบ่อยๆช่วงวันหยุด ชื่อ "เอ"
คนที่สามเป็นเพื่อนเก่าแก่ค่ะ เคยเรียนห้องเดียวกันตอนมัธยมต้น ชื่อ "โย" คนนี้ต่างจากทั้งสองคนมากเพราะเค้าไม่มีฐานะค่ะ ต้องทำงานหาเงินเรียนเอง ตอนที่ดิฉันเจอโยเค้าทำงานโรงงานและเรียนรามฯ ในตอนที่ดิฉันเดินกลับห้องพัก บังเอิญเจอเค้า ดิฉันจำหน้าเค้าได้ค่ะ (เค้าเป็นคนที่ดิฉันแอบชอบตอน ม.ต้น แต่ดิฉันไม่กล้าบอก) ดิฉันทักเค้า ปรากฏว่าใช่โยจริงๆ คุยกันอยู่สักพักจึงรู้ว่าเค้าอยู่หอพักในซอยถัดไปจากซอยหอพักที่ดิฉันอยู่นี่เอง เราเลยแลกเบอร์โทรกันไว้ค่ะ โทรคุยกันบ้าง เจอกันบ้าง ไปๆมาๆก็เลยคบกัน

เรื่องของดิฉันกับพี่หนึ่ง
ในมหาลัยใครๆก็จะค่อนข้างรู้ค่ะว่าดิฉันคบกับพี่หนึ่ง พี่หนึ่งเป็นคนที่เป็นสุภาพบุรุษมาก และก็ห่วงภาพลักษณ์มาก ดิฉันกับพี่หนึ่งมีช่องว่างให้กันพอสมควรค่ะ แต่ช่องว่างก็เริ่มแคบลงในช่วงที่ดิฉันต้องอยู่ที่มหาลัยดึกๆ เพื่อทำโครงการของทางคณะ ช่วงนั้นกินเวลาสองสัปดาห์ พี่หนึ่งก็จะมารอดิฉันตลอด และตอนค่ำๆ คนในมหาลัยก็น้อยลง และส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ไม่รู้จักกัน เป็นพวกที่เรียนภาคค่ำก็เยอะ พี่หนึ่งใช้โอกาสนี้ลดช่องว่างลงค่ะ ทั้งเวลาที่ไปกินข้าวเย็นก็จูงมือดิฉัน บางทีก็โอบเอว บางทีก็แอบหอมแก้มดิฉันที่มุมตึก ทำแบบนี้ทุกวัน ถึงแรกๆดิฉันจะเขินแต่ก็เลยตามเลยค่ะ คิดว่าคบกันทำแบบนี้ก็ไม่เป็นไร
จนงานที่คณะใกล้เสร็จ แต่ดิฉันยังต้องคอยมาคุมรุ่นน้อง ตอนดิฉันว่างๆพี่หนึ่งก็ชอบให้ดิฉันหลบฉากมานั่งคุยกันที่หลังตึกคณะ จำไม่ได้ทั้งหมดค่ะว่าคุยกันเรื่องอะไรบ้าง แต่คุยกันเรื่องผู้ชายกับผู้หญิง เกี่ยวกับการมีอะไรกันประมาณนี้ค่ะ คุยแบบแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ไม่รู้ว่าพี่หนึ่งมีอารมณ์มั้ย แต่ดิฉันเฉอะแฉะค่ะ เพราะพี่หนึ่งไม่ได้แค่คุยอย่างเดียว มือของพี่หนึ่งวางบนตักดิฉัน มืออีกข้างก็โอบเอวดิฉันไว้ และบางทีก็เหมือนพี่หนึ่งจะหลอกถามว่าดิฉันเคยกับผู้ชายหรือยัง ดิฉันก็ไม่รู้จะตอบว่ายังไงได้แต่เปลี่ยนเรื่องไป ช่วงนึงที่ดิฉันพูด เล่าเรื่องจิปาถะให้พี่หนึ่งฟัง พี่หนึ่งใช้จังหวะที่ดิฉันเผลอหอมแก้มดิฉัน ดิฉันหงะไป แต่ก็ไม่ว่าอะไร พอพี่หนึ่งจะหอมอีกทีดิฉันก็เอนตัวหลบค่ะ แทนที่จะหลบพ้น หน้าของพี่หนึ่งพลาดไปโดนที่ซอกคอดิฉันค่ะ ตอนนั้นดิฉันรู้สึกเสียวขึ้นมาเลย กางเกงในก็เปียกแฉะไปถึงไหนต่อไหนแล้วค่ะ พี่หนึ่งเงยหน้าขึ้นพร้อมรอบยิ้มกลิ่มอย่างมีเลสนัย ดิฉันก็ยิ้มตอบและทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอดีมีรุ่นน้องโทรมาเรียกให้เข้าไปดูงานในตึก ดิฉันก็เลยผละจากพี่หนึ่ง ไม่นานประมาณ 15 นาที ดิฉันก็เดินออกไปหาพี่หนึ่งข้างหลังตึกอีกรอบ ไม่พบพี่หนึ่งนั่งอยู่ตรงที่เดิมแล้ว ดิฉันเดินหาอยู่สักพัก ก็นึกได้ว่าลองโทรศัพท์ตามดีกว่า ในใจตอนนั้นคิดว่าพี่เค้าเดินไปซื้อของกินแน่ๆ
แต่ดิฉันก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของพี่หนึ่งอยู่ไม่ไกล ดิฉันเดินหา ตามเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ไปจนถึงซอกแคบๆมุมตึก ช่องนั้นมันคือช่องไม่เล็กไม่ใหญ่ พอที่รถมอเตอร์ไซด์จะจอดได้ พอดิฉันเดินเข้าไปดู เห็นพี่หนึ่งยืนอยู่และมองมาที่ดิฉัน ดิฉันเดินเข้าไปถามใกล้ๆ พี่หนึ่งไม่ตอบอะไร แต่โผกอดและจูบที่ปากดิฉัน ดิฉันพยายามผลักพี่หนึ่งออกไปด้วยความตกใจ พอหายตกใจดิฉันก็ปล่อยตัวปล่อยใจตามที่พี่หนึ่งจะพาไป พี่หนึ่งระดมจูบดิฉันจากริมฝีปาก ลงมาที่ซอกคอ ลงมาถึงเนินอก ดิฉันขอว่าไม่ให้พี่หนึ่งถอดเสื้อของดิฉัน พี่หนึ่งก็ไม่ถอด พี่หนึ่งได้แต่ล้วงมือเข้าไปใต้ยกทรง เค้นคลึงอย่างหนำใจ จากนั้นพี่หนึ่งไม่รอช้าปลดเข็มขัดและถอดกางเกงของตัวเอง ส่วนดิฉันก็รูดกางเกงในลงมากองที่ข้อเท้าพร้อมสู้ศึกกับพี่หนึ่ง พี่หนึ่งดันตัวดิฉันจนแผ่นหลังติดกำแพง พี่หนึ่งถลกกระโปรงสีดำขึ้นมาไว้ที่หน้าท้องของดิฉัน พร้อมกับใช้มือยกขาข้างซ้ายของดิฉันขึ้น ดิฉันเซไปข้างหน้าและซบกับพี่หนึ่งพอดี พี่หนึ่งสอดเจ้าดุ้นใหญ่เข้ามาทันที มันเข้าไปเกือบมิด ด้วยความที่ดิฉันไม่เคยผ่านผู้ชายมาก่อน ดิฉันส่งเสียงร้องดังจนพี่หนึ่งต้องเอามือมาปิดปากไว้ มันรู้สึกแสบนิดๆ แล้วก็เสียวมาก ดิฉันไม่เคยคิดเลยว่าครั้งแรกของดิฉันจะเป็นท่ายืนแบบนี้ พี่หนึ่งรูดเจ้าดุ้นใหญ่ เข้าๆ ออกๆ จนน้ำในร่องสวาทของดิฉันมันล้นทะลักไหลลงมาที่หน้าขา ดิฉันกัดฟันทนความเสียวที่แผ่ซานไปทั้งตัว และส่งเสียงให้เบาที่สุด สักพักนึงมีคนที่เรียนภาคค่ำ เลิกเรียนแล้วเดินผ่านมุมตึกตรงนั้น ดิฉันเห็นพวกเค้าชัดเจน แต่พวกเค้าไม่ได้สังเกตุ และดิฉันกับพี่หนึ่งก็อยู่ในที่มืด ตอนดิฉันเห็น ดิฉันสะกิดบอกพี่หนึ่งแต่พี่หนึ่งก็ไม่สนใจบรรเลงเพลงรักกับดิฉันไปเรื่อยๆ
พี่หนึ่งถอนเจ้าดุ้นใหญ่ออกไปจากตัวดิฉัน และจับดิฉันให้หันหน้าเข้ากำแพง จากนั้นพี่หนึ่งสอดเข้ามาจากทางด้านหลัง กระแทกเสียงดังฟังชัด ดิฉันเสียวจนตัวเกรงไปหมด ในตอนนั้นเองโทรศัพท์ของดิฉันก็ดังขึ้นเนื่องจากรุ่นน้องที่ทำงานอยู่โทรมา พี่หนึ่งรีบเร่งเครื่องจนเจ้าดุ้นใหญ่มันพ่นน้ำเข้าไปในร้องสวาทของดิฉัน มันแฉะเต็มหว่างขาไปหมด ดิฉันรีบรับโทรศัพท์และบอกกับน้องๆว่า "พี่อยู่ในห้องน้ำ เดี๊ยวรีบไป" หลังจากเสร็จกิจดิฉันก็บอกให้พี่หนึ่งกลับบ้านไปได้เลย เพราะรุ่นน้องคงจะทำงานเสร็จแล้ว นั่นคือครั้งแรกของดิฉัน และครั้งแรกกับพี่หนึ่ง วันต่อมาพี่หนึ่งเอายาคุมฉุกเฉินมาให้ดิฉันกิน แล้วก็ซื้อยาคุมแบบเม็ดรวมมาให้ด้วย ดิฉันกินยาคุมและเล่นเสียวกับพี่หนึ่งเรื่อยๆมา ส่วนใหญ่จะใช้สถานที่ในมหาัลัยนั่นเอง เพราะต้องการปิด เอ และโย ด้วยการที่ดิฉันแยกทั้งสามคนให้อยู่คนละโลกกัน
เรื่องของดิฉันกับเอ และโย ต้องติดตามตอนต่อไปนะคะ

วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ตามมากับลูกเขย (ประสบการณ์จริง)

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณยายเล่าให้ผมฟังเมื่อหลายปีมาแล้ว ตั้งแต่ผมยังเด็กๆอยู่
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพ ผมมาเรียนประถมโดยมาอาศัยอยู่กับปู่ และย่า 
ก่อนหน้านี้ผมอยู่กับพ่อ ยาย ก๋ง และน้า (น้องแม่) ที่จังหวัดพิษณุโลก พ่อของผมก็รับราชการอยู่ที่พิษณุโลก ส่วนแม่ของผมรับราชการอยู่ที่นครสวรรค์ ผมจึงถูกส่งมาก่อน ในขณะที่พ่อทำเรื่องย้ายเข้ามาในกรุงเทพ ในตอนนั้นพ่อของผมก็ไปๆ กลับๆระหว่างกรุงเทพและพิษณุโลก วิ่งเรื่องย้ายที่ทำงาน บ้านพักข้าราชการที่พิษณุโลกก็ต้องคืนหลวงไป ดังนั้นเวลากลับจากกรุงเทพก็เลยต้องไปพักที่บ้านยาย
บ้านยายผมมีสองชั้น ชั้นบนจะมีห้องของน้า และของก๋ง ชั้นล่างเป็นห้องโถง มีแคร่ใหญ่ที่ย้ายจะกางมุ้งนอนตอนกลางคืน หากพ่อของผมมาจะต้องปูผ้านอนบนพื้นที่หน้าทีวี
ช่วงนั้นพ่อยุ่งเรื่องทำเอกสารต่างๆ เรื่องย้าย ต้องไป - กลับบ่อยๆ พ่อชอบที่จะขึ้นรถประจำทางเพราะสบายกว่ารถไฟ แต่ในวันนั้นไม่ทราบสาเหตุ หรือไม่พ่อก็คงรีบ จึงกลับมาที่พิษณุโลกด้วยรถไฟ กว่าจะมาถึงก็เกือบห้าทุ่มแล้ว บ้านยายก็นอนกันหมดแล้ว พ่อมาเคาะประตูหน้าบ้าน ยายตื่นขึ้นและถามว่าใคร? พ่อก็ตอบออกไป ยายก็เลยเปิดประตูให้ ยายถามตามประสาว่า "กินอะไรมาหรือยัง" พ่อบอกว่ากินแล้ว จากนั้นพ่อก็คุยกับยายนิดหน่อย ก่อนที่จะไปอาบน้ำนอน 
ผ่านไปจนเวลาประมาณตีหนึ่งเศษ ในขณะที่ทั้งบ้านมืด และเงียบสงัด ในขณะที่ยายนอนอยู่ในมุ้ง ยายรู้สึกเหมือนมีคนมาสะกิดหลายๆครั้ง ยายลืมตาขั้นมาดูก็ไม่เห็นมีอะไร ยายหลับตานอนไปอีกพักนึง ยายก็รู้สึกมีคนมาสะกิดอีก คราวนี้ยายลืมตาดูด้วยความรำคาญ ยายกวาดตาดูไปรอบมุ้ง ข้างๆมุ้งนั่นเองมีเงาผู้ชายดำทมึนยืนอยู่ เป็นผู้ชายตัวใหญ่แต่ไม่มีศีรษะ ยายตกใจแต่ก็พูดไม่ออก ยายได้แต่ลืมตาดูแต่พูดไม่ได้ ด้วยความที่ยายเป็นคนเชื่อเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว 
ยายพูดในใจว่า "มาได้ไง" เงาดำนั้นตอบประมาณว่า "มากับพ่อ" ยายถามอีกว่า "ทำไมยายไม่เห็น" เงานั้นตอบว่า "ก็แอบอยู่ข้างหลังพ่อ" ยายถามต่อว่า "มาจากไหน" เงาดำนั้นตอบว่า "มาจากรถไฟ พอเห็นพ่อก็เลยเกาะหลังมา" ยายบอกไปว่า "ไปเถอะ เดี๋ยวจะทำบุญไปให้" เงาดำนั้นตอบกลับมาว่า "ขออยู่ด้วยสิ"
ยายตอบไปว่า "ไม่ได้ ไม่เอา" แล้วยายก็นึกถึงหลวงพ่อที่ยายนับถือ ภาวนาให้เงาดำนั้นไปเสียที สักพักเงาดำก็หายไป ยายก็พูด และลุกขึ้นได้ วันรุ่งขึ้นยายไม่ได้เล่าให้พ่อฟัง เพราะพ่อของผมไม่เชื่อเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว หลายเดือนต่อมายายจึงเล่าให้ผมกับแม่ฟัง

วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554

10 คำถามเรื่องเซ็กส์ที่ผู้หญิงไม่กล้าถามใคร

1. คนอื่นๆเขามีเซ็กส์กันบ่อยกว่าที่ฉันมีอยู่หรือเปล่า ? 

เชื่อได้ว่า ทุกคนมักตั้งคำถามแบบนี้กับตัวเอง เพราะคิดว่ากิจกรรมเซ็กส์ที่ทำนี่มันน้อยหรือมากไปไหม ก็จากความอยากรู้ ว่าตัวเองสูงหรือต่ำกว่าระดับมาตรฐานนั่นแหละ แต่เรื่องสำคัญก็คือ เราจะเอา"มาตรฐาน" จากตรงไหน กุญแจสำคัญที่จะต้องถามก็คือ ไม่เกี่ยวว่าทำบ่อยแค่ไหน แต่มีความสุขทุกครั้งหรือเปล่า เพราะเรื่องแบบนี้ปริมาณไม่สำคัญเท่ากับคุณภาพหรอกนะคะ ควรตรวจสอบว่า สัมพันธภาพของคุณกับคู่รักยังดีอยู่หรือเปล่า


2. ทำไมตอนกลางคืน หลังถึงจุดสุดยอดแล้วฉันจะต้องร้องไห้ออกมาด้วย ? 

การถึงจุดสุดยอดทำให้เกิดปฎิกิริยาเคมีกับอารมณ์และร่างกายได้หลายอย่าง บางคนส่งเสียงครวญคราง บางคนก็กรีดร้องออกมา ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะมันเป็นสภาวะแห่งการรู้สึกปลดปล่อยทั้งร่างกายและอารมณ์อย่างแท้จริง เป็นวิธีระบายความเครียดนั่นเองค่ะ และยังหมายถึงว่าเซ็กส์ของคุณไม่น่าเบื่ออีกด้วย


3. คนอื่นๆเขาใช้เวลานานเท่าไหร่ในแต่ละครั้ง ? 

การหลั่งของผู้ชายที่อยู่ในระหว่าง 5 - 15 นาทีของเวลาการมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นเรื่องปกติ การใช้เวลาจะอยู่กับการเล้าโลมเป็นส่วนใหญ่ คุณต้องบอกเขาเองค่ะว่าต้องการให้ใช้เวลาในการเล้าโลมนี้สักเท่าไร หากเขาหลั่งเร็วภายใน 5 นาทีของการมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรแนะนำหรือทำให้เขาเครียดเรื่องเซ็กส์น้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ ลองใช้ท่าการเคลื่อนไหวอื่นๆที่ไม่ทำให้เกิดความกดดันกับบริเวณส่วนปลายของอวัยวะเพศของเขามากเกินไป แต่ผู้ชายที่อายุน้อยและไม่มีประสบการณ์เรื่องเพศมากนัก ก็มีแนวโน้มการหลั่งเร็วกว่าปกติ เนื่องจากตื่นเต้นสูงกว่า จนมีคนบอกว่า สำหรับเรื่องเซ็กส์ของผู้ชายแล้ว ก็เหมือนกับไวน์ ที่ต้องเลือกอายุมากๆเข้าไว้จะนุ่มนวลและดีกว่า


4. ขนาดคลิตอริสของฉันมีผลกับความสามารถไปถึงจุดสุดยอดหรือไม่ ? 

ไม่ว่าจะเป็นขนาดของอวัยวะเพศผู้ชายหรือคลิตอริสของผู้หญิง ก็ไม่มีผลทำให้จิตใจกับความรู้สึกเรื่องเซ็กส์มีการเปลี่ยนแปลงแต่อยางใด ในเรื่องความตื่นเต้นของจุดสุดยอด คลิตอริสของคุณก็ยังทำงานเป็นปกติเมื่อถูกปลุกเร้า และอวัยวะเพศชายก็มีความรู้สึกแบบนั้น แม้การกระตุ้นที่คลิตอริส จะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงไปถึงจุดสุดยอด แต่สภาวะการถึงจุดสุดยอดอย่างสมบูรณ์ของผู้หญิงนั้น จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่ออวัยวะ 3 ส่วน ได้แก่ มดลูก ช่องคลอดและกล้ามเนื้อบริเวณเชิงกราน มีการบีบรัดตัวเป็นจังหวะเท่านั้น ดังนั้น จึงไม่ควรกังวลเกี่ยวกับขนาดของคลิตอริสของคุณให้มากเกินไป


5. ในขณะที่มีเซ็กส์อยู่กับคู่ของเรา มันผิดปกติไหมถ้าเราจะนึกถึงผู้ชายอีกคนที่เราไม่ได้กำลงนอนอยู่ด้วย ? 

เรื่องนี้ก็ตัดสินลงไปไม่ได้ทีเดียวว่ามันถูกหรือผิดปกติ แต่ถ้าทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร เพราะมันอยู่ในใจเราเอง ที่สำคัญอย่าหลุดปากออกมาก็แล้วกัน จริงๆแล้ว บางคนบอกว่าแบบนี้ทำให้เราตื่นเต้นดีมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะการจินตนาการแบบนี้ ไม่ได้แปลว่าคุณกำลังเบื่อคู่รักหรือป่วยทางจิต แต่มันอาจแปลว่า คุณกำลังรู้สึกจำเจกับกิจวัตรบนเตียงแบบเดิมๆ


6. อัณฑะของผู้ชายเป็นจุดที่ควรทำอย่างไรในการเล้าโลม 

จุดนี้อาจเรียกว่าเป็นการสำรวจที่พื้นที่ก่อนปฎิบัติจริงก็ได้นะ เพราะแพทย์ระบุว่า มีเส้นประสาทจำนวนนับร้อยๆเส้นที่จุดนี้ ช่วยให้ความรู้สึกของเขาตื่นตัวได้ดีขึ้น เพียงแต่ต้องทำอย่างนุ่มนวลเท่านั้น มันอาจจะช่วยผู้หญิงได้มาก หากจะบอกว่าจุดนี้ของผู้ชายก็เหมือนกับอวัยวะที่เรียกว่าแคมนอกหรือแคมในของผู้หญิง ให้สัมผัสที่จุดนี้เบาๆและนุ่มนวล เป็นการเริ่มเล้าโลมเขาก่อน และลองดูเองว่าปฎิกิริยาสนองตอบเป็นอย่างไร แต่โดยมากผู้ชายจะชอบ แต่ต้องไม่ลืมว่าต้องเล่นกับมันอย่างทะนุถนอมและอ่อนโยนมากๆ ห้ามบีบ กัดหรือทำรุนแรงเป็นอันขาด


7. การแว๊กซ์ขนที่อวัยวะเพศหญิง จะช่วยเพิ่มความพอใจให้เขาไหม

เรื่องนี้มีความเห็นที่แตกต่างกันไปในแต่ละคนและแต่ละคู่  อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทุกคนบอกตรงกันก็คือ หากทำแล้วเพิ่มความพอใจให้กับคู่ของตนก็พร้อมที่จะทำ และมีเรื่องสำคัญอีกอย่างคือ ผู้ชายส่วนมากมักอยากทำออรัลเซ็กส์ให้คนรักมากขึ้นหลังผู้หญิงทำการแว๊กซ์มาแล้ว แต่มีผู้ชายอีกพวกที่บอกว่ามันดูแปลกๆไป หากจะทำเพื่อเซอร์ไพรส์เขา ก็จงอย่าเอาออกจนหมดในครั้งแรก


8. ของสามีฉันจะเล็กกว่าผู้ชายคนอื่นๆหรือเปล่า ? 

ยากมากที่จะบอกขนาดที่เหมาะสมว่าควรเป็นเท่าไหร่ จากการวิจัยเรื่องขนาดและพฤติกรรมนี้ของมหาวิทยาลัยเวสเทอร์น ออนตาริโอพบว่า ขนาดความยาวเฉลี่ยของผู้ชายเอเชียเมื่อขยายตัวจะอยู่ที่ 10 - 14 ซม. และมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 ซม. ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กกว่าชาวอาฟริกัน และจากงานวิจัยเดียวกันก็ระบุว่าผู้หญิงเอเชียส่วนใหญ่ ก็มีช่องคลอดที่เล็กกว่าจะเหมาะสมกับขนาดที่ระบุนี้ เมื่อมีการเล้าโลมเกิดขึ้น ช่องคลอดของผู้หญิงก็จะบวมตัวด้วยเลือดที่มาคั่งเมื่อถูกกระตุ้นให้ตื่นตัวเรื่องเพศ ทำให้ขนาดที่บอกไว้นั้นลดลงอีกประมาณ 30%


9. ทำไมบางครั้งถึงมีเสียงลมระหว่างมีเซ็กส์ 

เสียงลมนั้นเกิดจากการอัดของอากาศเมื่อเวลาที่มีการดันของอวัยวะเข้าสู่ช่องคลอดในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์และทำให้เกิดเสียงไม่พึงประสงค์ขึ้น ผู้หญิงจะรู้สึกอายโดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นครั้งแรก แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เสียงนั้นเป็นเครื่องหมายแสดงว่า ทั้งคู่กำลังมีความสุขกับเซ็กส์ที่เกิดขึ้น เพราะแพทย์บอกว่า "สิ่งนี้ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้หญิงมีน้ำหล่อลื่นออกมามากเพียงพอเท่านั้น"


10. ทำไมเมื่อถูกเล้าโลมแล้วส่วนนั้นยังคงแห้งอยู่ 

ปัญหานี้มักเกิดขึ้นในผู้หญิงที่วัยใกล้หมดรอบเดือน เนื่องจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดน้อยลง ทำให้ร่างกายผลิตน้ำหล่อลื่นออกมาน้อยกว่าที่เคยเป็น ซึ่งแก้ได้ง่ายๆจากการให้ฮอร์โมนทนดแทนโดยแพทย์ หรือใช้เจลหล่อลื่นที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำ ก็จะแก้ปัญหาได้ดี แต่หากเกิดกับผู้หญิงอายุน้อยๆ อาจเป็นเพราะได้รับการเล้าโลมไม่เพียงพอ ความเครียดหรือความวิตกกังวลในขณะที่มีเซ็กส์ ทำให้ร่างกายต่อต้าน วิธีแก้ไขก็คือร่วมมือกัน บอกคู่รักให้เข้าใจและเล้าโลมนานกว่านี้ โดยปกติ ระยะเวลาการเล้าโลมที่เหมาะสมควรอยู่ประมาณระหว่าง 15 นาทีขึ้นไป ผู้หญิงจึงจะมีอารมณ์ร่วม แต่หากไม่ดีขึ้นอาจจะต้องไปพบแพทย์เพราะอาจเป็นเรื่องของการติดเชื้อราบางชนิดทำให้ช่องคลอดแห้งกว่าปกติ หรือการบริโภคยาบางอย่างตามแพทย์สั่งอยู่และทำให้ช่องคลอดแห้งเกินไปจากผลข้างเคียงของยา


ที่มา : www.bbberry.net